วันอังคารที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2565

ห้องเครื่อง?? ปัญหาที่ แมนยู ต้องเร่งแก้

 ก่อนอื่นขอย้อนกลับไปในเกมเปิดฤดูกาลที่ แมนฯ ยูไนเต็ด พ่ายแพ้แบบเสียน้องหมา…คาบ้าน


เอริค เทน ฮาก จัดแดนกลาง 3 ตัว ด้วยการให้ เฟร็ด ยืนเป็นตัว “โฮลด์บอล” อยู่หน้าแผงแบ็คโฟร์

หน้าที่หลักๆ ของนักเตะสายพันธุ์แซมบ้าผู้นี้มีอยู่ 2 อย่างด้วยกัน

หนึ่งคือบดบี้ทำลายเกมในแดนกลางของคู่แข่งตามบทบาทของมิดฟิลด์ตัวรับโดยทั่วไป

หนึ่งคือเขาต้องคอยถอยลงไปรับบอลจากแผงหลัง เพื่อมากำหนดจังหวะของเกมเหมือนเป็นจุดศูนย์กลางในการเซ็ตเกมขึ้นไปข้างหน้า

พูดง่ายๆ ว่าไม่ใช่แค่วิ่งไล่บี้คู่แข่งอย่างเดียวเหมือนมิดฟิลด์ตัวรับยุคเก่าของฟุตบอลอังกฤษ



เฟร็ด เป็นผู้เล่นที่มีความคล่องแคล่วและปราดเปรียวพอตัวนะครับ ปัญหาคือรูปร่างที่บอบบางเกินไปหน่อย แรงปะทะน้อย เฉพาะอย่างยิ่งเวลาต้องเข้าปะทะกับคู่แข่งที่ตัวใหญ่กว่า มักเอาไม่ค่อยอยู่

นอกจากนี้ คุณพี่เขายังเป็นผู้เล่นที่ไม่ค่อยมีความคงเส้นคงวาสักเท่าไหร่

บางเกมก็แปลงร่างเป็น “เฟร็ดดินโญ่” ผู้มีลีลาระดับเทพ

บางเกมกลับแปลงร่างเป็น “ไอ้เฟร็ดเฟ่” แบบไม่มีเหตุผลและไม่ต้องการความเข้าใจใดๆ ทั้งสิ้น

ในการศึกครั้งล่าสุด กุนซือของ ไบรท์ตัน อย่าง แกรห์ม พ๊อตเตอร์ ทำการบ้านมาอย่างละเอียดถี่ถ้วน เขารู้ว่า เอริค เทน ฮาก นำสไตล์การเล่นแบบไหนมาติดตั้งให้ แมนฯ ยูไนเต็ด จึงสั่งให้ลูกทีมบีบสูงแล้วพุ่งเข้าหาบอลเร็วทุกจังหวะ เพื่อทำลายจังหวะของพลพรรคปีศาจแดง ไม่ให้ต่อบอลและทำชิ่ง เพื่อคอนโทรลเกมได้ง่ายๆ

เวลาถูกบีบอัด เฟร็ด มักจะออกอาการร้อนรนจนป้ายบอลสะเปะสะปะหาความแน่นอนอะไรไม่ค่อยได้

เท่านั้นไม่พอ



ผู้เล่นอีกคนที่เสมอหนึ่ง “ผู้ช่วย” ของเขาที่คอยวิ่งขึ้นวิ่งลง อย่าง สก๊อตต์ แม็คโทมิเนย์ ดันมีความเป็นสากกะเบือมากเกินไปไม่หน่อย

คุณภาพในการรับส่งบอลต่ำตมมาก เลี้ยงบอลกระโดกกระเดก เข้าบอลโฉ่งฉ่างล่อแหลมต่อการโดนใบเหลืองใบแดง

ต่อเมื่อถูกคู่แข่งพุ่งเข้ามารุมอย่างรวดเร็วจากรอบทิศทาง การขับเคลื่อนของห้องเครื่องปีศาจแดงจะเกิดอาการตะกุกตะกักทันที


นั่นคือเหตุผลที่บอกว่าทำไม แมนฯ ยูไนเต็ด ถึง “MOST WANTED” ผู้เล่นที่มีคลาสส์มากกว่านี้อย่าง เฟร็งกี้ เดอ ยอง ที่เอาตัวรอดเก่ง สามารถพลิกแพลงและแก้ไขสถานการณ์ได้ดีพลางพลิกตัวหนีคู่แข่งแบบไม่สะท้านสะทก ก่อนหาทางจ่ายบอล แล้วเคลื่อนตัวไปเชื่อมต่อ อันส่งผลให้เกมเกิดความไหลลื่น

นี่คือผู้เล่นในตำแหน่งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องเอามาเสริมเป็นอันดับแรกนะครับ เพราะเปรียบเสมือนสารตั้งต้นในการสร้างทีมใหม่ตามปรัชญาลูกหนังของผู้เป็นกุนซือ หาใช่กองหลัง หาใช่ปีก หาใช่กองหน้าไม่

อนิจจา !!!



ป่านฉะนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้ตัวผู้เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ ทั้งๆ ที่คุณเสีย ปอล ป็อกบา กับ เนมานย่า มาติช ไปแล้ว

แถมดูเหมือนจะยึดติดกับ เฟร็งกี้ เดอ ยอง มากเกินไปจนปราศจากแผนสำรอง

พูดถึงดาวเตะดัตช์ผู้นี้ที่ บาร์เซโลน่า พร้อมขายออกจากทีมเพื่อลดภาระในการจ่ายค่าเหนื่อย

ทั้งค่าตัวและค่าเหนื่อยที่ บาร์ซ่า และ เฟร็งกี้ เดอ ยอง ต้องการ มันไม่ใช่ปัญหาของสโมสรที่พร้อมวอดวายอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด

ปัญหาคือเจ้าตัวเขาไม่อยากอุทิศวิญญาณให้ปีศาจแดง

ประมาณว่าคุณไปชอบผู้หญิงสักคนที่สวย เพียบพูนด้วยเสน่ห์ น่ารัก และแสนดี คุณจึงลงมือจีบพลางตามตื๊อเธอทุกวิถีทาง

เธออยากได้อะไร คุณพร้อมบำเรอ

แต่เธอไม่ได้รัก ไม่ได้ชอบ และไม่ได้อยากมาร่วมหอลงโลงกับคุณนี่แหว่า

จีบไปได้สักพักก็น่าจะรู้ตัวแล้วนะครับว่าผู้หญิงเขาไม่เอามึง ดังฉะนั้นคุณก็ควรจะยอมรับความจริง เพราะมันเสียทั้งแรงและเวลาไปเปล่าๆ ก่อนเปลี่ยนเป้าหมายใหม่ได้แล้ว



เวลาผ่านไปกว่า 2 เดือน คุณก็ยังพยายามเทียวไล้เทียวขื่อนักเตะที่ไม่มีใจให้ไม่เลิก มิเท่านั้นยังทำการทุบหม้อข้าว ด้วยกูจะ “เอานะ” ให้ได้แทนที่จะไปตามจีบคนที่พร้อมจะพลีใจและพลีกายให้แก่คุณ

ทุบหม้อข้าวจนแตกไปแล้ว ถ้า “ว่าวแดก” คุณก็จะไม่มีข้าวแดกนะครับ

ผลของการทุบหม้อข้าวจะเอาให้ได้ คือคุณยังไม่มีมิดฟิลด์ตัวใหม่ที่คุณภาพสูงกว่าเดิม แล้วก็แพ้คาบ้านตั้งแต่เกมแรกของฤดูกาล

จุดสำคัญจุดหนึ่งที่จะช่วยให้คุณเป็นผู้มีชัยในเกมฟาดแข้ง คือการคอนโทรลเกมในแดนกลางนี่แหละ

ประตูแรกที่เสียให้ ไบรท์ตัน มาจากการเสียบอลตรงกลางสนามง่ายๆ ของ สก๊อตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่ทำบอลพันแข้งพันขาตัวเองซะอย่างนั้น

ต่อเมื่อตามหลัง 1 ประตู ตามธรรมชาติของทีมที่ศักยภาพผู้เล่นสูงที่ชื่อชั้นและชาติตระกูลเหนือกว่า คือเร่งเกมรุกบุกกดดัน เพื่อทวงประตูคืนให้เร็วที่สุด

สิ่งที่เห็นบนฟลอร์หญ้าคือแดนกลางของ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคุมเกมแล้วบุกกระหน่ำสร้างความกดดันให้คู่แข่งแบบไม่ให้หายใจหายคออยู่ข้างเดียวไม่ได้

มิหนำยังปล่อยให้คู่แข่งแสดงให้เห็นถึงทีมเวิร์คที่เหนือกว่าอีกต่างหาก

ขอเรียนว่ามันน่าทุเรศทุรังมากนะครับ เพราะคุณคือ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เล่นในบ้านตัวเองแท้ๆ

แล้วขอโทษ…ไอ้ที่ครองบอลบุกอยู่ข้างเดียวในครึ่งหลัง สาเหตุสำคัญส่วนหนึ่งมาจากคู่แข่งที่นำห่าง 2 ประตูในครึ่งแรก แล้วเปลี่ยนรูปแบบการเล่นเป็นการเน้นเกมรับแบบรถบัส เพื่อรักษาสกอร์ด้วย



จึงพอจะบอกได้ว่า “ห้องเครื่อง” ของปีศาจแดงชุดปัจจุบันคุณภาพบัดซบนะครับ

ไม่ใช่แค่ เฟร็ด กับ สก๊อตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่ถูกทั้งนักวิจารณ์ลูกหนังปากไฟจิ๋มนรกอย่าง รอย คีน และแฟนบอลปีศาจแดงที่ตกอยู่ในอาการอยากเตะหน้าคนบรรจงเอาเลื่อยไฟฟ้ายัดเข้าไปในรูทวารหนัก

เพลย์เมคเกอร์ที่เล่นในตำแหน่งหมายเลข 10 อย่าง บรูโน่ แฟร์นันด์ส ก็เป็นผู้เล่นอีกคนที่ชักแปลกๆ แถมไม่ใช่พึ่งมาแปลกๆ ซะด้วย แต่แปลกๆ มาตลอดฤดูกาลที่แล้วเลยทีเดียว

ดาวเตะผู้นี้ขับเคลื่อนเกมรุกได้สะเปะสะปะสิ้นดี ไม่มีทีเด็ดในการจ่ายบอลเข้าโจมตีในพื้นที่สุดท้ายพลางใช้โอกาสอย่างสิ้นเปลือง แถมยังเสียบอลง่ายเกินไปจากการเล่นที่ไม่มีความละเอียดอ่อนอะไรเลย

บางคนแย้งว่าเพราะเขาเป็นผู้เล่นที่มีความกล้าได้และกล้าเสียจึงพยายามวัดทุกจังหวะ

อืมมมมม…เข้าใจครับ เข้าใจว่าพยายามวัดทุกจังหวะ

อันที่จริงความกล้าได้กล้าเสียเป็นเรื่องที่ควรทำนะครับ เพราะอยากแย่งประตูจากคู่แข่งมันต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงกันบ้าง แต่เท่าที่เห็นในระยะหลัง บรูโน่ แฟร์นันด์ส เป็นผู้เล่นที่หลับหูหลับตาวางบอลแบบตะพึดตะพือ ไม่รู้จักการอ่านเกมแล้วดึงจังหวะ ด้วยบางจังหวะ มันก็ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงมากขนาดนั้น



หากมันเสี่ยงเกินไป สู้เก็บบอลเอาไว้กับตัว หรือค่อยๆ ทำชิ่งสั้นๆ เพื่อสร้างจังหวะกับเพื่อนร่วมทีมไปก่อนดีกว่า

หลังจากระเบิดฟอร์มการเล่นอันเปล่งปลั่งออกมาในช่วง 2 ฤดูกาลแรกนับตั้งแต่สับตีนมาจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน จนสถาปนาตัวเองเป็นเจ้าของสถิติการสร้างสรรค์เกมรุกทั้งการทำประตูและแอสซิสต์ กระทั่งถูกขนานนามว่าเป็น “เดอะ แบก” ประจำทีม

ปัจจุบันสังเกตได้เลยว่านอกจากจะถีบคำว่า “เดอะ แบก” ออกจากตัวเองไปแล้วยังกลับกลายเป็นภาระของ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปอีกหนึ่งคนโดยแฟนบอลอาจไม่รู้ตัว

เทียบง่ายๆ ในบทบาทเดียวกับ คริสเตียน เอริคเซ่น

ดาวเตะพันธุ์หนองโพมีความเยือกเย็นและแน่นอนกว่าอย่างเห็นได้ชัด

สมมุติว่าเลือกหมายเลข 10 ลงสนามได้เพียงแค่คนเดียว

ตอนนี้ คริสเตียน เอริคเซ่น เป็นผู้เล่นที่สามารถทำประโยชน์ต่อทีมได้มากกว่า บรูโน่ แฟร์นันด์ส ไปเรียบร้อย

ข้อดีของการพังพาบตั้งแต่นกกระจอกยังไม่ทันกินน้ำ คือช่วยให้ท่านเจ้าของทีมที่อุตส่าห์ให้เกียรติมาประทับตูดอยู่ในโรงละครแห่งความฝันมองเห็นสภาพของทีมตัวเองว่ามันเฮงซวยขนาดไหนแล้วรีบโปรยปลาซาร์ดีนลงไปในท้องทะเล โดยมีข้อแม้ว่าถ้าท่านเจ้าของทีมมีความรู้เรื่องฟุตบอลเพียงพอนะครับ



ที่แน่ๆ เอริค เทน ฮาก คงเห็นเต็มสองตาอย่างคมชัดในระบบฟูลเอชดีแล้วนะครับว่า “ห้องเครื่อง” ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เขาบรรจงจัดลงไป “สอบตก” ตั้งแต่เกมแรกของฤดูกาลทั้ง 3 คนเลยทีเดียว

หากไม่ตัดใจจาก เฟร็งกี้ เดอ ยอง แล้วไม่ได้ตัวผู้เล่นที่มีคุณภาพมากกว่าที่มีอยู่ในตอนนี้มาเสริมทัพ กระทั่งตลาดปิด หมดสิทธิ์ซื้อตัวผู้เล่น

มึงบอกลาการไล่ล่า “ท็อปโฟร์” ไปได้เลยครับ

คิดง่ายๆ ขนาดเล่นในบ้าน เจอทีมที่ศักดินาต่ำกว่า แดนกลางยังคอนโทรลเกมไม่ได้ คุณก็คงไม่ต่างจากทีมกลางตารางสักเท่าไหร่

คิดเรื่องนี้แล้วก็ขออนุญาตถอนหายใจยาวๆ

ทั้งๆ ที่รู้ว่าปัญหาอยู่ตรงไหน และต้องการผู้เล่นในตำแหน่งไหนมากที่สุด คุณกลับมือเกาจุดที่ไม่ได้คันมากก่อน แล้วปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปโดยยังไม่ได้ผู้เล่นในตำแหน่งที่ทีมต้องการมากที่สุด…ซะอย่างนั้น
 !!!




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น