วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2565

รับสภาพก่อนเตะก็หาว่าออกตัว! สิ่งที่อยากบอกหลัง แมนยู แพ้เละเทะ

 ก่อนบุกไปเยือน เบรนต์ฟอร์ด – ผมวิเคราะห์ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด มีสิทธิ์พังพาบ !!!

ทั้งผู้ชมและผู้อ่านส่วนมากคิดว่าผม “ออกตัว” และพูดแก้เคล็ดไปอย่างนั้น แต่ขอยืนยันและสาบานหนักแน่นว่าผมคิดแบบนั้นจริงๆ

ย้ำอีกครั้งว่าคิดแบบนั้นจริงๆ เพียงแต่ก็ไม่คิดว่ามันจะเละเทะถึงขนาดโดนกะซวกถึง 4 ดอกเน้นๆ ในครึ่งแรก



1.นัดที่แล้ว เอริค เทน ฮาก จัดตัวผิดที่ไม่ส่งกองหน้าอาชีพลงตัวจริง โดยเอา คริสเตียน เอริคเซ่น ไปสวมบท False9 จนเป็นหนึ่งในสาเหตุของความพ่ายแพ้

เกมนี้จึงมีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่น 11 ตัวจริงบางตำแหน่งในระบบ 4-3-3

แผงแบ็คโฟร์เหมือนเดิม ไม่มีเปลี่ยนแปลง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ เล่นเซ็นเตอร์แบ็คคู่กัน

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กลับมายืนหัวหอกตัวเป้า

ตรงกลางมี เฟร็ด, บรูโน่ แฟร์นันด์ส และ คริสเตียน เอริคเซ่น

ตอนแรก เข้าใจว่า เฟร็ด เล่นเป็นตัวโฮลด์บอลอยู่หน้าแผงแบ็คโฟร์ ขณะที่ คริสเตียน เอริคเซ่น ทำหน้าที่ผู้เล่นหมายเลข 8 ขึ้นๆ ลงๆ ช่วยเกมรับและเกมรุกตามจังหวะ โดยปล่อยให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส สร้างสรรค์เกมรุกแบบเต็มตัว

ต่อเมื่อเห็นตำแหน่งบนฟลอร์หญ้า พบว่าดาวเตะทีมชาติเดนมาร์กต่างหากที่สวมบทตัวโฮลด์บอล คอยตั้งเกมอยู่หน้าแผงแบ็คโฟร์

สรุปว่าผ่านไป 2 นัด คริสเตียน เอริคเซ่น เป็นทั้งกองหน้าและมิดฟิลด์ตัวรับ ซึ่งไม่ใช่งานถนัดทั้ง 2 ตำแหน่ง แถมก่อความผิดพลาดถึงขั้นเสียประตูอีกต่างหาก



2.พลพรรคปีศาจแดงในชุด “สางเขียว” เริ่มต้นได้อย่างคึกคัก ด้วยการครองบอลบุกได้มากกว่า ก่อนค่อยๆ ลดระดับลงเหมือนเกมแรกของฤดูกาลเลยนะครับ

ทันใด ดาบิด เด เคอา ก็รับบอลพลาด อนุญาตให้ลูกยิงที่ไม่รุนแรงและหนีมือของคู่แข่งหลุดมือกลิ้งข้ามเส้นประตูไปง่ายๆ จนต้องอุทานถึงสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่ชนิดหนึ่งพร้อมกันทั้งบาง

มันเกิดจากความเลินเล่อของนายทวารค่าเหนื่อยแพงที่สุดในโลก (3.5 แสนปอนด์ต่อสัปดาห์) ล้วนๆ ที่มั่นใจมากจนประมาทว่าพุ่งตะครุบได้แบบสบายๆ แน่ๆ

อยู่ดีๆ ไปต่อให้เขาก่อนอีกแล้ว

ปกติเกมรับก็ไม่ค่อยมีความเหนียวแน่นอยู่แล้วนะครับ เกมนี้ผู้รักษาประตูดันไปแถมให้เขาอีก

อนึ่ง กูล่ะเบื่อ



3.เท่านั้นไม่พอ

ความพยายามเซ็ตบอลหรือที่นักวิจารณ์ลูกหนังในทีวีชอบเรียกว่า “บิลด์อัพเกม” จากในกรอบเขตโทษยังนำมาซึ่งหายนะเป็นระลอกที่ 2

เรื่องนี้เป็นคำสั่งของ เอริค เทน ฮาก แน่นอน เพราะมันเป็นสไตล์การสร้างเกมขึ้นมาของคุณพี่เขา แถมสั่งลูกทีมแปลกๆ ด้วยการให้กองหลังจ่ายบอลแรกให้ผู้รักษาประตูเป็นตัวขึ้นเกมซะด้วย

แล้วก็ได้เรื่องครับ

คือ โธมัส แฟร้งค์ กุนซือสโมสรผึ้งน้อยศึกษาสไตล์การเล่นของ เอริค เทน ฮาก มาอย่างละเอียดจึงสั่งลูกทีมบีบสูงพลางพุ่งเข้าใส่อย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เซ็ตบอลขึ้นมาได้ถนัด

พลันที่ ดาบิด เด เคอา เริ่มต้นเซ็ตบอลในเขตโทษ ผู้เล่นของ เบรนต์ฟอร์ด จะเข้าประกบแบบตัวตัวต่อทันที

จังหวะที่ คริสเตียน เอริคเซ่น ถอยลงมาเอาบอลหน้ากรอบเขตโทษ นายทวารปีศาจแดงเห็นอยู่แล้วนะครับว่าเพื่อนร่วมทีมถูกตัวประกบตามบี้มาติดๆ

แทนที่จะแก้ไขสถานการณ์ด้วยการหวดยาวไปข้างหน้า “พี่เดฟ” กลับจ่ายบอลยัดให้ดาวเตะพันธุ์โคนมดื้อๆ

คริสเตียน เอริคเซ่น อันตรายเมื่อหันหน้าเข้าหาประตูคู่แข่งนะครับ ไม่ใช่หันหน้าเข้าหาประตูตัวเอง เพราะเขาไม่ใช่มิดฟิลด์ที่คอยถอยลงไปเอาบอลจากกองหลัง (หรือผู้รักษาประตู) มาตั้งเกม

ผลก็คือถูกตัวประกบที่ตามบี้มาแบบหายใจรดต้นคอฉกบอลไปยิง

ผิดพลาด 2 จังหวะ ถูกลงโทษทั้ง 2 จังหวะ

มิหนำพอตามหลัง 2-0 ผู้เล่นปีศาจแดงก็ใจเสีย คุมจังหวะกันไม่อยู่ ออกบอลสะเปะสะปะ แดนกลางครองบอลทำเกมรุกกดดันคู่แข่งไม่ได้ เช่นเดียวกับจังหวะทำประตู

ถึงตอนนั้น ผมค่อนข้างมั่นใจว่า แมนฯ ยูไนเต็ด คงกลับมายากแล้วล่ะ



4.นอกจากความผิดพลาดของ ดาบิด เด เคอา

ปราการหลังตัวใหม่อย่าง ลิซ่า มาร์ติเนซ ยังถูกเล่นงานจนถึงขั้นถูกเปลี่ยนตัวออก หลังจบครึ่งแรก

จุดอ่อนคือรูปร่างที่เล็กและสั้นเกินไปสำหรับสมรภูมิแข้งที่ฮาร์ดคอร์อย่างพรีเมียร์ลีกนี่แหละ

ว่าแล้วก็ถูกคู่แข่งที่ทำการบ้านมาดีจี้จุดอ่อนเรื่องนี้โดยเฉพาะจนพลาดเสียประตูจากลูกเตะมุม เพราะเอาคู่ต่อสู้ที่ตัวใหญ่กว่าไม่อยู่

ส่วนประตูที่ 4 มาจากจังหวะโต้กลับของ เบรนต์ฟอร์ด ที่รวดเร็วและแม่นยำดีนักแล

แค่ครึ่งแรกโดนกดไป 4 ดอก มันก็จบบริบูรณ์แล้ว

การถูกถอดออกตั้งแต่จบครึ่งแรกของ ลิซานโดร มาร์ติเนซ แสดงว่าเขาไม่เหมาะกับเกมแบบนี้

เฟร็ด ถูกถอดออก เพราะเล่นอะไรไม่รู้ ไม่มีประโยชน์เหมือนเดิม ขณะผู้เล่นอีกคนที่ถูกถอดออกอย่าง ลุค ชอว์ ก็ไม่ควรได้ลงตัวจริงตั้งแต่แรกอยู่แล้ว-ขอบอก

แม้ครึ่งหลัง อาการจะดีขึ้นบ้าง อย่างน้อยก็ไม่เสียประตูเพิ่ม แต่จังหวะเข้าทำมันก็ยังสากกะเบือ และปราศจากความหลากหลาย จ่ายบอลวนไปวนมา หาทางเจาะเข้าไปไม่ได้เหมือนเดิมเลยครับคุณ



5.ทีนี้ถามว่าทำไม ผมถึงบอกก่อนเกมว่า แมนฯ ยูไนเต็ด มีสิทธิ์พังพาบสวนทางกับกูรูลูกหนังอีกหลายท่าน ???

อันดับแรกคือฟอร์มการเล่นในเกมแรกที่ “คาบ้าน” มันยังติดตาและตรึงใจ พวกเขาแพ้ ไบรท์ตัน แบบเสียน้องหมามาก

ผมไม่เชื่อว่า “ผีจะเข้า” หรือ “องค์จะลง” จนกลายเป็นคนละทีมจากนัดแรก

เฉพาะอย่างยิ่งคุณภาพผู้เล่นในแดนกลางที่ไม่ได้เหนือกว่าใครเขาด้วยซ้ำ

อันดับต่อมา ผมมั่นใจว่า เอริค เทน ฮาก จะส่ง ลิซานโดร มาร์ติเนซ ลงตัวจริง ขณะที่ เบรนต์ฟอร์ด เป็นทีมที่ชอบสาดบอลยาวจากแดนหลัง เช่นเดียวกับครอสส์บอลจากริมเส้นให้ศูนย์หน้าตัวใหญ่ๆ โถมเข้าใส่ บวกกับการวิ่งสู้ฟัด

แบบนี้อุทานสำเนียงแต้จิ๋วได้เลยว่า…ชิกหาย

เกมรับของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ยังคงเสียประตูง่ายเหมือนเดิม เพราะยังไม่มีมิดฟิลด์ตัวรับระดับอ๋องมาช่วยแบ่งเบาภาระให้กองหลัง

เกมรุกก็ไม่มีแมวน้ำอะไร นอกจากพยายามส่งให้ “พี่โด้” บนวัย 37 หาทางทำประตู

เรื่องมันจึงเอวังลงด้วยประการฉะนี้

อย่างไรก็ตาม

ขอให้เด็กผีสนับสนุน เอริค เทน ฮาก ต่อไปนะครับ

ท่องเอาไว้ว่าสร้างทีมใหม่ต้องใช้เวลาอดทน – สร้างทีมใหม่ต้องอดทน

อดทน

อดทน

อดทน

ถ้าทนได้ก็ทน ถ้าทนไม่ได้ก็ต้องทน เข้าใจไหม




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น