วันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

ไม่ได้เจ๋งแค่ในสนาม! ลิเวอร์พูล กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมระดับแชมป์

 


ปัจจุบันคงแทบไม่มีใครที่จะกล้าแย้งว่า ลิเวอร์พูล เป็นหนึ่งในทีมที่มีฟอร์มการเล่นยอดเยี่ยมที่สุดของวงการฟุตบอล หลังจากที่พวกเขาแสดงให้เห็นถึงฟอร์มอันโดดเด่นอย่างต่อเนื่องจนถึงขนาดที่ว่าตอนนี้กำลังมีลุ้นเก็บแชมป์ได้ครบทั้ง 4 รายการของซีซั่น 2021-22 ซึ่งหากทำอย่างนั้นได้มันก็จะเท่ากับว่า "หงส์แดง" เป็นทีมแรกของเกาะอังกฤษที่กวาดแชมป์รายการใหญ่ได้ครบทั้ง 4 รายการในฤดูกาลเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม นอกจากผลงานอันโดดเด่นในสนามแล้วนั้น นอกสนาม ลิเวอร์พูล ก็ยังทำเรื่องที่ยอดเยี่ยมได้มากพอๆ กัน เพราะพวกเขาถือเป็นหนึ่งในแชมป์ของ สปอร์ตส์ โพซิทิฟ เอ็นไวรอนเมนทัล ซัสเทนอบิลิตี้ ลีก หรือพูดอีกแบบก็คือการเป็นทีมฟุตบอลที่ "อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมยอดเยี่ยม" ของทาง พรีเมียร์ลีก

สำหรับ สปอร์ตส์ โพซิทิฟ เอ็นไวรอนเมนทัล ซัสเทนอบิลิตี้ ลีก ของเวอร์ชั่น พรีเมียร์ลีก นั้น อยู่มาได้ราว 3 ปีแล้ว เพียงแต่มันไม่ค่อยมีการนำเสนอข่าวสารมากเท่าไหร่จนทำให้เป็นเรื่องธรรมดาที่หลายคนจะไม่รู้ว่ามีโครงการแบบนี้อยู่ ซึ่งเป้าหมายของโครงการนี้ก็คือการประเมินนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและการให้ความสำคัญกับชุมชนของแต่ละสโมสรใน พรีเมียร์ลีก อย่างเช่นเรื่องพลังงานสะอาด, การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ, การลดใช้พลาสติก, การกำจัดขยะ และการให้ความรู้, การสื่อสาร รวมถึงความมุ่งมั่นที่มีต่อการทำให้เกิดความยั่งยืน เป็นต้น

 ทั้งนี้ ในการวัดคะแนนประจำปี 2021 นั้น ลิเวอร์พูล เข้ามาเป็นอันดับ 1 ของ พรีเมียร์ลีก ร่วมกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ หลังจากพวกเขาอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้อย่างดีจนได้คะแนนเข้าเกณฑ์ถึง 23 คะแนน จากคะแนนเต็มทั้งหมด 24 แต้ม โดยคำชมที่ "หงส์แดง" ได้รับคือการยกเครื่องโปรเจกต์ด้านความยั่งยืนได้ดี และการสร้างยุทธศาสตร์ได้อย่างครอบคลุมจนถึงขนาดที่ว่าการอนุรักษ์ธรรมชาติมันซึมซับไปทุกด้านของสโมสร



ลิเวอร์พูล ให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อมมาพักหนึ่งแล้ว ยกตัวอย่างเช่น ไฟฟ้าและแก๊สที่พวกเขาใช้งานในอาคารต่างๆ ของสโมสรนั้น มันก็มาจากทรัพยากรที่สามารถรีไซเคิ่ลได้ ส่วนวัตถุดิบที่โรงอาหารของสโมสรนำมาใช้ปรุุงอาหารรสเลิศนั้นก็มาจากฟาร์มในย่านท้องถิ่นทางตะวันตกเฉียงเหนือ โดยการทำอย่างนั้นช่วยทำให้ลดการขนส่ง ซึ่งนำไปสู่การลดการใช้น้ำมันไปได้นั่นเอง แถมยังเป็นการช่วยเหลือชาวสวนชาวไร่ในท้องถิ่นไปในตัวได้อีกต่างหากแถมเมื่อปีก่อนพวกเขาก็เคยตั้งโครงการภายในสโมสรชื่อ "เดอะ เร้ด เวย์" เพื่อภารกิจการอนุรักษ์ธรรมชาติโดยเฉพาะ

ขณะเดียวกัน ลิเวอร์พูล ก็มีโครงการที่ชื่อว่า "เร้ดส์ โกอิ้ง กรีน" ซึ่งเป็นการติดตั้งเครื่องจักรด้านออร์แกนิคเพื่อเปลี่ยนขยะที่เหลือจากอาหารให้เป็นน้ำ แถมกระดาษที่ใช้สำหรับการบบรจุอาหารก็ทำจากวัตถุดิบที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติแบบ 100 เปอร์เซ็นต์อีกต่างหาก นอกจากนี้ บรรดาน้ำที่พวกเขาเอามาใช้รดหญ้าของทั้ง แอนฟิลด์ และ เคิร์คบี้ ให้ชุ่มฉ่ำอยู่เรื่อยๆ นั้น ก็มีส่วนหนึ่งที่มาจากน้ำฝนที่ทางสโมสรใช้มาตรการบางอย่างในการเก็บเอาไว้

อีกด้านหนึ่ง แอลเอฟซี ฟาวน์เดชี่น มูลนิธิด้านการกุุศลประจำสโมสร ก็ทำงานร่วมกับบรรดาโรงเรียนในย่านท้องถิ่นอย่างหนักเพื่อที่จะให้ความรู้เยาวชนเกี่ยวกับเรื่องภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงและความย่งยืนด้วย ส่วนที่ แอ็กซ่า เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ ศูนย์ฝึกซ็้อมของทีมก็มีการปลูกต้นไม้ใหม่ๆ เกิน 650 ต้น เพื่อให้สิ่งแวดล้อมมันดีขึ้น โดยเดิมทีก็มีการปลูกต้นไม้เอาไว้อยู่แล้ว 6,000 ต้น และะก็มีพุ่มไม้ที่มีความยาวเกิน 1.5 กิโลเมตรด้วยกัน



มันยังมีการใช้รถทำความสะอาดด้านชีวภาพที่ทันสมัยมาติดตั้งเอาไว้ที่สโมสรด้วย โดยมันจะคัดกรองไขมัน, สิ่งสกปรก, น้ำมัน และเปลี่ยนน้ำสะอาดให้สามารถนำมาใช้อีกครั้งได้ ขณะที่เป้าหมายในเป้าหมายระยะยาวนั้น ลิเวอร์พูล ก็กำลังทำงานอย่างขยันขันแข็งเพื่อที่จะทำให้การปล่อยสารคาร์บอนจากสโมสรเป็น 0 ให้ได้ จะได้ตรงกับกฎของรัฐบาลสหราชอาณาจักร โดยถ้านับแค่ตอนนี้ ลิเวอร์พูล ก็บอกว่าพวกเขามีค่าคาร์บอนแบบเป็นกลาง หรือการที่ปริมาณการปล่อยคาร์บอนเข้าสู่ชั้นบรรยากาศเท่ากับปริมาณคาร์บอนที่ถูกดูดซับกลับคืนมาได้แล้ว



ทั้งนี้ เมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ก็ประกาศแคมเปญที่ชื่อว่า โกลส์ ฟอร์ เชนจ์ โดยเป็นการร่วมมือกับ เอสซี จอห์นสัน บริษัทสัญชาติอเมริกัน เพื่อดำเนินการต่างๆ ที่จะส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม โดยเป้าหมายมีอย่างเนการรีไซเคิ่ลการใช้ขวดพลาสติกที่ แอนฟิลด์ ให้ได้เป็นจำนวนมากกว่า 500,000 ขวดต่อปี และการใช้ภาชนะที่ออกแบบมาเป็นพิเศษที่จะนำไปทำการอัพไซคลิ่งต่อได้ โดยการอัพไซคลิ่งก็คล้ายกับการรีไซเคิ่ล แต่จะต่างกันตรงที่ อัพไซคลิ่ง จะมีการเพิ่มดีไซน์และนวัตกรรมจนทำให้ของที่เกิดมาใหม่มันดูมีความสวยงามและน่าใช้มากยิ่งขึ้น

"คุณแน่ใจเหรอว่านี่คือ ลิเวอร์พูล จริงๆ น่ะ !?!" คำคือพููดของ เดิร์ค เคาท์ อดีตดาวเตะ ลิเวอร์พูล ซึ่งได้รับหน้าที่ให้เป็นคนเดินทางไปมอบรางวัลให้กับยอดทีมแห่งย่านเมอร์ซี่ย์ไซด์ เรียกได้ว่าตอนนี้ ลิเวอร์พูล ทำได้ดีทั้งในสนามและนอกสนามอย่างแท้จริง




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น