เปิด 5 ประเด็นน่าสนใจจากเกม เอฟเวอร์ตัน เปิดบ้านเฉือน แมนฯ ยูไนเต็ด ส่งผลให้ "ทอฟฟี่สีนำเงิน" มีโอกาสรอดตกชั้นมากขึ้น ส่วน "ปีศาจแดง" ความหวังไปลุย แชมเปี้ยนส์ ลีก แทบริบหรี่แล้ว
แฟร้งค์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีม เอฟเวอร์ตัน เพิ่มความหวังกับการพาทัพ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" อยู่รอดในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังจากเปิดรัง กูดิสัน พาร์ค เฉือนชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 9 เมษายน ที่ผ่านมา
เอฟเวอร์ตัน ได้ประตูชัยจาก แอนโธนี่ กอร์ดอน กองกลางดาวรุ่งที่ยิงไปแฉลบ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ปราการหลังกัปตันทีมเยือน เข้าไปตุงตาข่ายตั้งแต่นาทีที่ 27 โดยเกมนี้มี 5 ประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
1. แรชฟอร์ด ทำลายสถิติ กิ๊กส์
.jpg)
มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าทีมชาติอังกฤษ กลับมาลงเป็นตัวจริงให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมนี้ และนับเป็นการลงสนามใน พรีเมียร์ลีก นัดที่ 200 ของตัวเอง
แรชฟอร์ด กลายเป็นนักเตะ "ปีศาจแดง" อายุน้อยสุดที่ได้ลงเล่น พรีเมียร์ลีก ครบ 200 เกม ด้วยวัย 24 ปี กับอีก 160 วัน ทำลายสถิติของ ไรอัน กิ๊กส์ ตำนานปีกพ่อมดที่เคยทำไว้ในวัย 24 ปี กับอีก 295 วัน
อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายที่ แรชฟอร์ด ทำประตูไม่ได้ในเกมนี้ หลังมีโอกาสอยู่บ้างในครึ่งแรก ส่งผลให้ซีซั่นนี้เขาเพิ่งทำไปแค่ 5 ลูกเท่านั้นในทุกรายการ
2. แนวรับผียังรั่ว
.jpg)
แมนฯ ยูไนเต็ด เสียประตูตั้งแต่นาทีที่ 27 หลัง กอร์ดอน กองกลางเจ้าถิ่น ยิงไปแฉลบ แม็กไกวร์ เข้าไปตุงตาข่าย ส่งผลให้ฤดูกาลนี้โดนยิงในลีกไปแล้วถึง 42 ลูกจากการลงสนาม 31 นัด
ลูกทีมของ ราล์ฟ รังนิก เป็นทีมที่เสียประตูมากสุดใน 9 อันดับแรกของตาราง พรีเมียร์ลีก ส่วนทีมที่เสียน้อยสุดคือ แมนฯ ซิตี้ คู่ปรับร่วมเมืองที่เพิ่งโดนเจาะตาข่ายไปแค่ 18 ลูกจาก 30 นัด
นอกจากนั้น "ปีศาจแดง" ยังเสียประตูในการออกไปเล่นเป็นทีมเยือนมาแล้วติดต่อกัน 8 นัดหลังสุดในทุกรายการ โดยคลีนชีตหนสุดท้ายที่พวกเขาทำได้ในการเล่นนอกบ้านต้องย้อนกลับในเกมพบ นอริช เมื่อเดือนธันวาคม ปีที่ผ่านมา
3. โอกาส แมนฯ ยูไนเต็ด ไปชปล.ริบหรี่
.jpg)
จากความปราชัยในนัดนี้ ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังรั้งอันดับ 7 ของตาราง โดยลงเตะไปแล้ว 31 นัด เพิ่งมีแค่ 51 คะแนนเท่านั้น ทำให้ความหวังที่จะติดท็อปโฟร์เพื่อไปเล่นถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า เริ่มริบหรี่เต็มทน
"ปีศาจแดง" มีคะแนนตาม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ทีมอันดับ 4 ของตารางอยู่ 3 คะแนน แถมเล่นมากกว่า "ไก่เดือยทอง" 1 นัดอีกต่างหาก
นอกจากนั้น ยังมี อาร์เซน่อล ที่ขวางทางอยู่ โดยเวลานี้ "ปืนใหญ่" อยู่ที่ 5 ของตาราง มี 54 คะแนน หลังเพิ่งเล่นไปแค่ 29 เกมเท่านั้น รวมถึง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่รั้งอันดับ 6 มี 51 คะแนน และผลต่างประตูได้เสียดีกว่า "ปีศาจแดง" ด้วย
4. พี่โด้ ฟอร์มฝืดอีกนัด
.jpg)
เกมนี้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กองหน้าทีมชาติโปรตุเกส ได้กลับมาลงสนามเป็นตัวจริงให้ แมนฯ ยูไนเต็ด หลังนัดก่อนที่เปิดบ้านเสมอ เลสเตอร์ ซิตี้ ไม่ได้ลงเล่นเพราะป่วย
ซีอาร์ 7 แทบไม่ได้โอกาสในการยิงเลย จนออกลูกหงุดหงิดในช่วงท้ายเกม ก่อนที่จะพบกับความพ่ายแพ้ และทำให้ความหวังไปเล่นถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก ในซีซั่นหน้าเลือนราง
ดาวเตะวัย 37 ปี กำลังโดนวิจารณ์อย่างหนัก ถึงขนาดที่ เวย์น รูนี่ย์ อดีตกองหน้าเพื่อนร่วมทีม ออกโรงแนะนำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ปล่อยจากถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในซัมเมอร์นี้เพื่อสร้างทีมใหม่เลยทีเดียว
5. ถึงชนะแต่ทอฟฟี่ยังมีงานหนักรออยู่
.jpg)
จากชัยชนะในนัดนี้ทำให้ เอฟเวอร์ตัน หายใจโล่งขึ้นมาหน่อย หลังเล่นไปแล้ว 30 นัดมี 28 คะแนน รั้งอันดับ 17 ของตาราง โดยตาม ลีดส์ ยูไนเต็ด อันดับ 16 ที่เล่นมากกว่า 1 นัดอยู่ 2 แต้ม และนำ เบิร์นลี่ย์ อันดับ 18 ที่เล่นน้อยกว่า 1 นัด ห่าง 4 แต้ม
อย่างไรก็ตาม หากดูจากโปรแกรม 8 นัดที่เหลือของ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ต้องบอกว่าไม่ใช่งานง่ายเลยเพราะจะต้องเจอกับทั้ง เลสเตอร์, ลิเวอร์พูล, เชลซี และ อาร์เซน่อล
โปรแกรม พรีเมียร์ลีก 8 นัดที่เหลือของ เอฟเวอร์ตัน
วัน คู่แข่ง เหย้า/เยือน
20 เม.ย. เลสเตอร์ เหย้า
24 เม.ย. ลิเวอร์พูล เยือน
1 พ.ค. เชลซี เหย้า
7 พ.ค. เลสเตอร์ เยือน
11 พ.ค. วัตฟอร์ด เยือน
15 พ.ค. เบรนท์ฟอร์ด เหย้า
19 พ.ค. คริสตัล พาเลซ เหย้า
22 พ.ค. อาร์เซน่อล เยือน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น