ช่วงพรีซีซั่นแบบนี้ดูเหมือนบรรดาเด็กผีจะมีความสุขและเสียวซ่านกันมิใช่น้อย
เหตุเพราะผลงานของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วงเตรียมทีมก่อนเปิดฤดูกาลค่อนข้างไฉไลเลยทีเดียว อย่างน้อยๆ ก็ช่วยให้ผู้มีจิตศรัทธาในปีศาจแดงกล้าสบตาแฟนบอลทีมอื่นๆ โดยไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ ด้วยความหวาดระแวงเหมือนเมื่อตอนท้ายฤดูกาลที่ผ่านมาบ้าง
พลพรรคปีศาจแดงยุคปรับปรุงใหม่ลงเล่นไปแล้ว 3 นัด พุ่งชนชัยชนะทั้ง 3 นัด ยิงได้ 7 ประตู และยังสามารถรักษาความบริสุทธิ์ของตัวเองเอาไว้ได้...ซะอย่างนั้น
ฟอร์มการเล่นโดยรวมทั้ง 3 นัด ก็จัดอยู่ในเกณฑ์ที่ดีพอใช้ มีความน่าประทับใจในรูปทรง ว่าแล้วเอาคะแนนจากคุณครูไป 7 คะแนนพร้อมคำชมว่า "น่ารักนะคะ"
ผู้เล่นส่วนใหญ่ที่ได้ลงสนามก็แสดงความมุ่งมั่นและทุ่มเทออกมาแบบไม่เหยาะแหยะ
ดาวเตะที่ตกเป็นข่าวมาตลอดว่าไม่อยากทิ้งหัวใจไว้ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด อย่าง ปอล ป็อกบา ก็แสดงความเป็นมืออาชีพออกมาแบบเต็ม 80 ตีนถีบ ไม่มีอาการ "กูอยากย้าย" ออกมาให้เห็น
ขณะที่สมาชิกใหม่ 2 คนทั้ง ดาเนี่ยล เจมส์ และ อารอน วาน-บิสซาก้า ก็สำแดงความเปล่งปลั่งออกมาเหมือนเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุด
ปีกจรวดตัวใหม่สามารถใช้ความเร็วระดับนรกไม่ต้อนรับของตัวเองให้เป็นประโยชน์ต่อทีม ขณะที่แบ็คขวาเจ้าของสมญา "ไอ้แมงมุม" ช่วยให้เกมรับของ แมนฯ ยูไนเต็ด มีความหนักแน่นมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้เด็กๆ จากโรงเรียนลูกกรอกคะนองวิทยาหลายคนพอได้ลงสนามแบบเต็มๆ พลางเล่นอย่างต่อเนื่อง (ไม่ใช่เป็นตัวสำรองที่มีเวลาแค่ 10-15 นาทีเหมือนฤดูกาลปกติ) พวกเขาก็แสดงให้เห็นถึงความเป็น "เด็กนรก" ที่มีของ หากได้รับโอกาสลงสนามบ่อยๆ ฝีเท้าก็จะพัฒนาขึ้น เช่นเดียวกับประสบการณ์ที่จะมากขึ้นเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม
#ต้องไม่ลืมเช่นกันนะครับว่ามันเป็นแค่เกมอุ่นเครื่องที่แตกต่างจากของจริงอย่างสิ้นเชิง
ช่วงอุ่นเครื่องแบบนี้เปิดโอกาสให้ผู้เป็นกุนซือได้ "ทดลอง" และ "ทดสอบ" ทั้งตัวผู้เล่นและระบบการเล่นพลางเรียกความฟิตให้นักเตะไปในตัว
ทดลองทั้งระบบและรูปแบบการเล่นใหม่ๆ
ใครได้ดูแชมป์หญ้าสวยทั้ง 3 นัดที่ผ่านมาจะพบว่าพวกเขามีรูปแบบการเล่นใหม่เพิ่มเข้ามา หลังเคยถูกวิพากษ์-วิจารณ์อย่างจงหนักเรื่องการวิ่งและการเคลื่อนตัวที่สถิติระบุว่าน้อยติดอันดับแรกๆ ของพรีเมียร์ลีกเลยทีเดียว
ก่อนที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จะเข้ามาเป็นกุนซือปีศาจแดงคนใหม่ - แมนฯ ยูไนเต็ด เน้นเกมรัดกุมเป็นหลักจนขัดแย้งกับสมญา "ปีศาจแดง" ของตัวเอง
หลุยส์ ฟาน กัล นำปรัชญาการครองบอลมาติดตั้งให้ลูกทีมจนถ่ายบอลไปและถ่ายบอลมา สลับกับการส่งลูกคืนหลังจนนำมาซึ่งความน่าเบื่อ
โชเซ่ มูรินโญ่ ก็เดินทางมาที่โรงมหรสพแห่งความฝันพร้อมรถบัส 2 ชั้นคันใหญ่ด้วยต้องการเน้นผลการแข่งขันมากเกินไป สิ่งที่เห็นเป็นประจำคือเมื่อจ่ายบอลแล้ว ผู้เล่นจะไม่ค่อยขยับไปหาที่ว่างสักเท่าไหร่ เพราะกลัวเสียตำแหน่งแล้วถูกสวนกลับ
วิธีการเล่นทั้ง 2 รูปแบบคล้ายๆ กันอยู่อย่างคือไม่จำเป็นต้องใช้พละกำลังในการวิ่ง วิ่ง และวิ่งสักเท่าไหร่
ทว่า 3 นัดที่ผ่านมา สังเกตเห็นว่าผู้เล่นปีศาจแดงมีความขยันในการสับตีนกันมากขึ้นประหนึ่งถูกฉีดเครื่องดื่มบำรุงกำลัง "ทักษิณสู้" เข้าไปในเส้นเลือดจึงทำงานหนักมากขึ้นแบบผิดหูผิดตา
อันที่จริงท่านผู้ชมทางบ้านอย่างผมรู้สึกผิดสังเกตตั้งแต่ 2 เกมแรกแล้วนะครับ-ขอบอก เพียงแต่มันยังไม่ค่อยคมชัดสักเท่าไหร่
กระทั่งเกมล่าสุดที่ สิงคโปร์ นี่แหละค่อนข้างชัดเจนเลยทีเดียว
"เพรสซิ่ง" ครับ "เพรสซิ่ง"
แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นแบบเพรสซิ่ง !!!
ขออนุญาตใส่เครื่องหมายตกใจพร้อมกัน 3 ตัว เพราะไม่คิดว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จะนำวิธีการเล่นแบบนี้มาติดตั้งให้ลูกทีม
ในการศึกครั้งล่าสุดกับ อินเตอร์ มิลาน ผู้เล่นสายพันธุ์ปีศาจสามง่ามบีบขึ้นสูงถึงหน้ากรอบเขตโทษของคู่แข่งแล้วพุ่งเข้าหาบอลอย่างรวดเร็วทุกจังหวะจนกดให้ทีมงูใหญ่ต้องตั้งรับอยู่ในแดนตัวเองแบบโงหัวไม่ขึ้น
แม้จะยังทำไม่ได้ไม่ดุดันและหนักหน่วงปานภูผาถล่มทลายเท่า "เฮฟวี่ เมทัล ฟุตบอล" ของ ลิเวอร์พูล โดยยังเป็นแค่จังหวะ ร็อค แอนด์ โรลล์ แถมไม่รู้ว่าเปืดฤดูกาลแล้วจะใช้ได้ผลขนาดไหน แต่การเริ่มต้นทำอะไรที่แตกต่างจากเดิมบ้างก็ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีและมีความคิดสร้างสรรค์
นอกจากจะทดลองรูปแบบการเล่นใหม่ๆ แล้วยังได้ทดสอบฝีเท้าของผู้เล่นไปในตัวด้วย เฉพาะอย่างยิ่งนักเตะประเภท "เจ้าหนูสิงห์นักเตะ" รุ่นล่าสุดที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาวิชาฟาดแข้งจากสถาบันลูกกรอกคะนอง
3 นัดที่ผ่านมา คุณน้าลูกอมแกทดลองใช้ผู้เล่นที่กำเนิดจากหยดอสุจิคุงรุ่นล่าสุดของตัวเองไปแล้ว 6 คนด้วยกัน คือ โชเอล เปเรยร่า, แอ๊กเซิ่ล ตวนเซเบ้, เจมส์ การ์เนอร์, แองเจิ้ล โกเมส, เมสัน กรีนวู๊ด และตาฮิธ ชอง
สำหรับเกมอุ่นเครื่องแบบนี้ยังประกาศผลสอบและวัดมาตรฐานอะไรไม่ได้มากนะครับ เพราะย้ำอีกครั้งว่ามันแตกต่างจากของจริงแบบสิ้นเชิง แต่ดาวรุ่งผู้ที่ทำคะแนนเลิศเลอเป็นอันดับหนึ่งคือ เมสัน กรีนวู๊ด ในตำแหน่งหน้าขวาที่ตะบันไปแล้ว 2 ดอก
ด้วยความที่เป็นศูนย์หน้าเก่าในระดับเยาวชนช่วยให้ดารารุ่งรัศมีวัย 17 ขวบผู้นี้หาตำแหน่งและช่องว่างในการยิงประตู รวมถึงยิงประตูได้ดี มิหนำยังมีจิตใจห้าวหาญกล้าโชว์และกล้าเล่นเกินเด็กอีกต่างหาก
ขณะที่เพื่อนร่วมรุ่นอย่าง แองเจิ้ล โกเมส กับ ตาฮิธ ชอง ก็โชว์ฟอร์มได้ไม่เลว ส่วน เจมส์ การ์เนอร์ อาจจะยังไม่ได้สำแดงฤทธิ์เดชอะไรออกมามากก็ยังอุตส่าห์ทำลายตาข่ายได้ตั้งแต่นัดแรกที่ได้รับโอกาสลงสนาม
ทางด้านรุ่นพี่สถาบันเดียวกันที่เลื่อนขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ก่อนอย่าง สก๊อตต์ แม็คโทมิเนย์ ก็ดูเหมือนจะพร้อมแล้วที่จะทดแทนตำแหน่งของ เนมานย่า มาติช แบบเต็มตัว
"แม็คโท" เป็นนักเตะวัยหนุ่มที่มากด้วยพละกำลัง แถมเป็นผู้เล่นที่มีวินัยพร้อมทำตามคำสั่งของผู้เป็นเจ้านายแบบไม่บิดพลิ้ว
ฟอร์มการเล่นของดาวรุ่งวัย 22 กะรัตผู้นี้ค่อนข้างโดดเด่นเป็นสง่า โดยสังเกตได้ถึงความขยัน-เยือกเย็น และรู้จังหวะมากขึ้น แถมสามารถพาลูกควบตะบึงขึ้นไปโจมตีคู่แข่งได้อีกด้วย หากได้โอกาสลงเล่นบ่อยๆ น่าจะเก่งขึ้นกว่าเดิม บางทีอาจจะถึงเวลาแล้วที่ สก๊อตต์ แม็คโทมิเนย์ ควรได้รับโอกาสในการลงตัวจริงอย่างเป็นสม่ำ
สำหรับการมีอยู่ในทีมของ ดาเนี่ยล เจมส์ กับ เมสัน กรีนวู๊ด ทำให้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา มีตัวเลือกในตำแหน่งตัวรุกริมเส้นอย่างเหลือเฟือฟายพอที่จะขยับ มาร์คัส แรชฟอร์ด หรือ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ขึ้นไปเล่นเป็นหัวหอกแบบเต็มตัวได้เลย
"แรช" กับ "หมาก" มีความปราดเปรียวเหมือนปลาไหลสิงใจเธอสับเปลี่ยนเร็วนัก ทักษะและความสามารถเฉพาะตัวสูงกว่าหัวหอกอย่าง โรเมลู ลูกากู จึงเหมาะกับฟุตบอลสมัยใหม่ที่กองหน้าต้องมีส่วนร่วมกับเกมและทำประโยชน์ได้มากกว่าการถล่มตาข่ายให้สิ้นซากเพียงอย่างเดียวเหมือน "พี่ตู้" นะครับ
นั่นเท่ากับว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะมีผู้เล่นในตำแหน่งหัวหอกถึง 3 คนคือ มาร์คัส แรชฟอร์ด, อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล และโรเมลู ลูกากู
ด้วยฟอร์มการเล่นแบบนี้ และด้วยการแหวกหมดลูกออกมาประกาศอิสระภาพของดาวรุ่งแบบนี้
ถามว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ยังจำเป็นต้องเสริมทัพด้วยผู้เล่นราคาแพงอีกหรือเปล่า?
อนึ่ง อย่าลืมนะครับว่าการมาของดาวเตะใหม่หมายถึงโอกาสที่ลดน้อยลงไปของบรรดาดาวรุ่ง
อืมมมมมม...นะ
มาดแม้นว่าพลพรรคปีศาจแดงจะแสดงให้เห็นถึงทิศทางที่ดีขึ้นและสร้างความกระชุ่มกระชวยให้เหล่าสาวกมากขึ้น แต่ก็ต้องไมลืมเช่นกันว่าฟอร์มการเล่นที่เข้าขั้นไฉไลและชัยชนะที่บังเกิดขึ้นนั้นได้มาจากคู่แข่งที่คุณภาพต่ำกว่าทั้งหมด
เกมแรกเจอกับทีมระดับ เอ ลีก อย่าง เพิร์ธ กลอรี่ ของออสเตรเลียที่ค่อนข้างห่างชั้น เกมต่อมาเอาชนะคู่แค้นเก่าอย่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด ก็อยู่ในระดับแชมเปี้ยนชิพที่ไม่ได้เลื่อนชั้น ขณะคู่แข่งในเกมล่าสุดอย่าง อินเตอร์ มิลาน และนาทีนี้ก็แทบไม่มีผู้เล่นระดับดาวดังอยู่ในทีม
เอาเข้าจริง มันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกประหลาดใจอะไรมากนักหรอก
ที่แน่ๆ คือถ้าต้องการยกตูดของตัวเองให้สูงขึ้นกว่าเดิม หรือต้องการเขยิบเข้าใกล้ 2 ทีมเต็งอย่าง แมนฯ ซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล พวกเขาจำเป็นต้องเสริมผู้เล่นใหม่มาสร้างความแข็งแกร่งและซ่อมแซมส่วนที่สึกหลออีกอย่างน้อยๆ 2 คน
แค่ 2 คนพอครับ ไม่มักมาก เพียงแต่ขอเป็น 2 คนที่อัดแน่นด้วยคุณภาพอย่าง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส
รับรองว่าบรรดาเด็กผีจะเชียร์บอลอย่างมีความสุขและเสียวซ่านมากกว่านี้แน่นอน
