วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

แมนซิตี้ แชมป์-พรีเมียร์ฯมา5!ท็อป10ทีม11ตัวจริงแพงสุด


เปิด 10 อันดับสโมสรในลีกใหญ่ยุโรปที่มีมูลค่านักเตะตัวจริงซีซั่นนี้มากสุด โดย พรีเมียร์ลีก ติดเข้ามาครึ่งหนึ่งทั้ง แมนฯ ซิตี้, แมนฯ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, เชลซี และ อาร์เซน่อล


แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นทีมที่มีค่าเฉลี่ยนักเตะ 11 ตัวจริงมูลค่าแพงสุดของ 5 ลีกใหญ่ยุโรป (พรีเมียร์ลีก, ลา ลีกา, บุนเดสลีกา, กัลโช่ เซเรีย อา และ ลีก เอิง) ในฤดูกาลนี้ที่ 560 ล้านปอนด์ (ประมาณ 24,080 ล้านบาท) ตามข้อมูลจาก ซีไออีเอส ฟุตบอล อ็อบเซิร์ฟวาโทรี่

สถาบันวิเคราะห์สถิติชื่อดังอ้างอิงข้อมูลตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาล 2022/23 จนถึงวันที่ 26 ต.ค. ที่ผ่านมา โดย "เรือใบสีฟ้า" มาอันดับหนึ่ง หลังนักเตะในทีมตัวจริงส่วนใหญ่มีค่าตัวประเมินอยู่ที่ 50-60 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,150-2,580 ล้านบาท)

นอกจากนั้น ยังมีอีก 4 ทีมจาก พรีเมียร์ลีก ที่ติดอยู่ใน 10 อันดับแรกทั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด อันดับสาม, ลิเวอร์พูล อันดับสี่, เชลซี อันดับห้า และ อาร์เซน่อล อันดับหก

10 อันดับทีมที่มีมูลค่านักเตะตัวจริงสูงสุดใน 5 ลีกใหญ่ยุโรป

1. แมนฯ ซิตี้ 560 ล้านปอนด์

2. ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 439 ล้านปอนด์

3. แมนฯ ยูไนเต็ด 413 ล้านปอนด์

4. ลิเวอร์พูล 352 ล้านปอนด์

5. เชลซี 338 ล้านปอนด์

6. อาร์เซน่อล 329 ล้านปอนด์

7. เรอัล มาดริด 318 ล้านปอนด์

8. บาร์เซโลน่า 287 ล้านปอนด์

9. ยูเวนตุส 258 ล้านปอนด์

10. บาเยิร์น มิวนิค 253 ล้านปอนด์




ป๋าเฟอร์กี้อุตส่าห์ทำไว้!แมนยู จ่อเสียสถิติชปล.ให้ แมนซิตี้


แมนฯ ซิตี้ มีโอกาสทำลายสถิติ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่แพ้เกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ในบ้าน 23 นัดที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เคยทำไว้ระหว่างปี 2005-2009


เป็ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะนำ "เรือใบสีฟ้า" ทำสถิติทาบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่ปรับร่วมเมือง ขอเพียงแค่ไม่แพ้ เซบีย่า ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย กลุ่มจี ที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม คืนวันพุธที่ 2 พฤศจิกายนนี้

หาก แมนฯ ซิตี้ ชนะหรือเสมอทีมจากสเปน ก็จะทำให้ไม่แพ้เกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ในบ้าน 23 นัดติดเท่ากับที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เคยทำไว้ระหว่างปี 2005-2009 (ชนะ 17 เสมอ 6) ในสมัยที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานกุนซือชาวสกอตแลนด์ กุมบังเหียน ซึ่งเป็นสถิติยาวนานสุดของทีมจากอังกฤษ

"เรือใบสีฟ้า" ผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ด้วยการเป็นอันดับหนึ่งของกลุ่มจีเป็นที่แน่นอนแล้ว และเกมในบ้านนัดล่าสุดก็ถล่ม เอฟซี โคเปนเฮเก้น สโมสรจากเดนมาร์ก ขาดลอย 5-0 ทำให้ไม่แพ้ที่ เอติฮัด ใน แชมเปี้ยนส์ ลีก มาแล้ว 22 เกมติด (ชนะ 20 เสมอ 2)

หาก แมนฯ ซิตี้ ไม่แพ้ เซบีย่า ในวันพุธนี้ก็จะยืดสถิติเป็น 23 เกมเท่า แมนฯ ยูไนเต็ด และ "เรือใบสีฟ้า" ก็ยังมีโอกาสเดินหน้าสร้างสถิติขึ้นมาใหม่ หลังฤดูกาลนี้ "ปีศาจแดง" ไม่ได้มาเล่นถ้วยใหญ่โดยไปเล่นแค่ ยูโรปา ลีก เท่านั้น

เป็ป มีสถิติที่ยอดเยี่ยมในการนำ "เรือใบสีฟ้า" ลงเล่นในบ้านถ้วยยุโรปตั้งแต่มาทำงานเมื่อปี 2016 โดยสามารถคว้าชัยชนะได้ถึง 81 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของทุกกุนซือถ้วยใบนี้ในการคุมทีมลงเล่น 20 นัดขึ้นไป

นอกจากนั้น เป็ป ยังมีผลงานที่ยอดเยี่ยมในการเจอกับ เซบีย่า โดยเอาทั้ง 3 หนในการเจอกันล่าสุด และคุมทีมแพ้ทีมจากสเปนบ้านเกิดไปแค่ 2 หนจาก 13 นัดเท่านั้น




ผีคุ้ม-สิงห์ซื้อไม่ปัง! ตัดเกรด10บิ๊กดีลพรีเมียร์ตลาดซัมเมอร์ที่ผ่านมา



เดอะ มิร์เรอร์ สื่อจากอังกฤษ ได้ทำการตัดเกรดท็อป 10 การเซ็นสัญญาของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา โดยงานนี้ เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาลันด์ ดาวยิงจาก แมนฯ ซิตี้ คว้าแชมป์ไปครองตามระเบียบ


ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดฉากมาเป็นเวลาสองเดือนแล้ว และแข่งขันกันมาทั้งสิ้น 12-13 นัด ซึ่งในปีนี้การต่อสู้แย่งแชมป์ และท็อปโฟร์ดูจะมีความเข้มข้นมากขึ้นกว่าในปีที่ผ่านมา หลังจากหลายๆสโมสรต่างทุ่มงบมหาศาลดึงสตาร์ดังมาเพิ่มศักยภาพให้กับทีมในช่วงตลาดซ์้อขายนักเตะซัมเมอร์ที่ผ่านมา โดยมีการใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น 1.9 พันล้านปอนด์ ซึ่งเป็นตัวเลขสูงที่สุดนับตั้งแต่ที่พรีเมียร์ลีกเคยมีมา

ในจำนวนนักเตะใหม่ที่ย้ายเข้ามาใหม่นั้นมีหลายคนสามารถปรับตัวกับทีมใหม่ได้เร็วและกลายเป็นกำลังสำคัญให้กับทีม แต่ในขณะเดียวกันก็มีอีกหลายคนที่ทำผลงานได้น่าผิดหวัง จนถูกยกให้เป็นการเซ็นสัญญาที่ย่ำแย่ของสโมสรเลยทีเดียว

วันนี้ เดอะ มิร์เรอร์ ได้ทำการตัดเกรดท็อป 10 การเซ็นสัญญาที่ใหญ่ที่สุดในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ใครจะได้คะแนนเท่าไหร่ไปดูกันเลย

อันดับ ทีมเก่า ทีมใหม่ ราคา เรตติ้ง


10.อันโตนี่ (อาแจ็กซ์ - แมนฯ ยูไนเต็ด) 85 ล้านปอนด์ : 6.5/10 คะแนน

9.เวสลีย์ โฟฟาน่า (เลสเตอร์ - เชลซี ) 70 ล้านปอนด์ : 4/10 คะแนน

8.ดาร์วิน นูนเญส (เบนฟิก้า - ลิเวอร์พูล) 64 ล้านปอนด์ : 5/10 คะแนน

7.กาเซมีโร่ (เรอัล มาดริด - แมนฯ ยูไนเต็ด) 60 ล้านปอนด์ : 8.5/10 คะแนน

6.อเล็กซานเดอร์ อีซัค (เรอัล โซเซียดาด - นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด) 59 ล้านปอนด์ : 6/10 คะแนน

5.มาร์ค กูกูเรย่า (ไบรท์ตัน - เชลซี) 56 ล้านปอนด์ : 3/10 คะแนน

4.ลิซานโดร มาร์ติเนซ (อาแจ็กซ์ - แมนฯ ยูไนเต็ด) 55 ล้านปอนด์ : 8.5/10 คะแนน

3.ริชาร์ลิซอน (เอฟเวอร์ตัน - สเปอร์ส) 50 ล้านปอนด์ : 6/10 คะแนน

2.ราฮีม สเตอร์ลิง (แมนฯ ซิตี้ - เชลซี) 50 ล้านปอนด์ : 3/10 คะแนน

1.เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาลันด์ (ดอร์ทมุนด์ - แมนฯ ซิตี้) : 10/10 คะแนน




ทูเคิ่ล-เจอร์ราร์ด-นายเก่า ธีราทร ได้ลุ้น!บ่อนเปิดราคากุนซือใหม่ ลิเวอร์พูล


ร้านพูลออกราคากุนซือใหม่ ลิเวอร์พูล ถ้า เจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่อยู่คุมทีมแล้ว ชูทั้ง โธมัส ทูเคิ่ล, สตีเว่น เจอร์ราร์ด และ อังเก้ ปอสเตโคกลู ให้อยู่ใน 5 อันดับแรก


เบตแฟร์ บริษัทรับพนันที่ถูกกฎหมายของประเทศอังกฤษ เปิดราคาให้ เป็ป ไลจ์นเดอร์ส เป็นเต็ง 1 ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล คนต่อไป หากถึงวันที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมัน ต้องอำลาถิ่น แอนฟิลด์ ไปแล้ว

มือขวาคนปัจจุบันของ คล็อปป์ มีอัตราต่อรองอยู่ที่ 5/2 (แทง 2 จ่าย 5 ไม่รวมทุน) ขณะที่ โธมัส ทูเคิ่ล อดีตผู้จัดการทีม เชลซี ตามมาเป็นเต็งสองราคา 4/1 (แทง 1 จ่าย 4 ไม่รวมทุน)

ด้าน สตีเว่น เจอร์ราร์ด อดีตกองกลางกัปตันทีม "หงส์แดง" รั้งเต็ง 3 ราคา 9/2 (แทง 2 จ่าย 9 ไม่รวมทุน) หลังจากที่เวลานี้กำลังว่างงานเหมือนกับ ทูเคิ่ล หลังเพิ่งโดน แอสตัน วิลล่า ไล่ออกเมื่อเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา

ขณะที่ ยูเลียน นาเกิลส์มันน์ เทรนเนอร์ บาเยิร์น มิวนิค รั้งเต็ง 4 ราคา 13/2 (แทง 2 จ่าย 13 ไม่รวมทุน) ตามมาด้วย อังเก้ ปอสเตโคกลู กุนซือ เซลติก ซึ่งเคยร่วมงานกับ "เจ้าอุ้ม" ธีราทร บุญมาทัน ดาวเตะทีมชาติไทย ที่สโมสร โยโกฮาม่า เอฟ. มารินอส ในศึก เจลีก ญี่ปุ่น ช่วงปี 2019-2021

อัตราต่อรองผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล คนใหม่หาก คล็อปป์ อำลาทีม

1. เป็ป ไลจ์นเดอร์ส 5/2

2. โธมัส ทูเคิ่ล 4/1

3. สตีเว่น เจอร์ราร์ด 9/2

4. ยูเลียน นาเกิลส์มันน์ 13/2

5. อังเก้ ปอสเตโคกลู 15/2

6. ชาบี อลอนโซ่ 10/1

7. ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ 14/1

8. อันโตนิโอ คอนเต้ 16/1

9. แกรม พอตเตอร์ 25/1





 


อาร์เซน่อล แชมป์-สถิติแต้มใหม่!ตารางโปรเจ็กต์พรีเมียร์ฯจบซีซั่น


ดูกันเล่นๆ 10 อันดับแรก พรีเมียร์ลีก หลังจบฤดูกาลจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร หากแต่ละทีมยังรักษาผลงานแบบนี้ไปตลอด


มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล จะนำทัพ "ปืนใหญ่" คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2022/23 ได้สำเร็จ และทำคะแนนได้มากสุดในประวัติศาสตร์สโมสร หากแต่ละทีมยังรักษามาตรฐานผลงานเหมือนเดิมไปจนจบซีซั่น

ในเวลานี้ อาร์เซน่อล นำเป็นจ่าฝูงหลังลงเล่นไป 12 นัด เก็บได้ 31 คะแนนจากชนะ 10 เสมอ 1 และแพ้ 1 นัด โดยหากรักษามาตรฐานนี้ไปตลอดก็จะจบฤดูกาลเป็นแชมป์ด้วยการมี 99 คะแนน
อาร์เซน่อล เคยเก็บคะแนนได้มากสุดในยุค พรีเมียร์ลีก ตอนเป็นแชมป์ไร้พ่ายเมื่อฤดูกาล 2003/04 สมัยที่ อาร์แซน เวนเกอร์ กุมบังเหียน ที่ 90 คะแนน และหาก อาร์เตต้า ยังทำให้ทีมรักษามาตรฐานเดิมไปจนจบซีซั่นก็จะทำลายสถิติทันที

ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ จะจบฤดูกาลด้วยอันดับสองที่ 92 คะแนน หากทีมของ เป็ป กวาร์ดิโอล่า ยังมีมาตรฐานเหมือนในเวลานี้หลังลงเล่นไป 12 นัดมี 29 คะแนนจากชนะ 9 เสมอ 2 แพ้ 1



ตารางโปรเจ็กต์ พรีเมียร์ลีก 10 อันดับแรก

1. อาร์เซน่อล 99 คะแนน

2. แมนฯ ซิตี้ 92 คะแนน

3. สเปอร์ส 76 คะแนน

4. แมนฯ ยูไนเต็ด 73 คะแนน

5. นิวคาสเซิ่ล 70 คะแนน

6. เชลซี 67 คะแนน

7. ไบรท์ตัน 57 คะแนน

8. ฟูแล่ม 55 คะแนน

9. ลิเวอร์พูล 51 คะแนน

10. คริสตัล พาเลซ 51 คะแนน




เป็ป อัพเดตอาการ ฮาลันด์ ก่อน แมนซิตี้ บู๊ เซบีย่า


แมนฯ ซิตี้ จะไร้ เออร์ลิง ฮาลันด์ ลงล่าตาข่าย เซบีย่า วันพุธนี้ หลัง เป็ป กวาร์ดิโอล่า ยันไม่เสี่ยง แม้อาการบาดเจ็บดีขึ้นแล้วก็ตาม


เป็ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยืนยันว่า เออร์ลิง ฮาลันด์ กองหน้าคนเก่ง ยังไม่พร้อมกลับมาลงสนามเจอ เซบีย่า ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย กลุ่มจี ที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม คืนวันพุธที่ 2 พฤศจิกายนนี้

หัวหอกทีมชาตินอร์เวย์ มีปัญหาบาดเจ็บที่ข้อเท้าและเท้าจนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดบุกไปเสมอ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 0-0 ช่วงกลางสัปดาห์ที่แล้ว ส่งผลให้ไม่ได้เล่นในเกมเฉือน เลสเตอร์ ซิตี้ 1-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

นายใหญ่ "เรือใบสีฟ้า" เผยในการแถลงข่าวก่อนเกมว่า "เขา (ฮาลันด์) รู้สึกดีขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับวันเสาร์และวันอาทิตย์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เขายังไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ เราไม่ต้องการเสี่ยง มันไม่สมเหตุสมผล หวังว่า เขาจะกลับมาได้ในเกมพบ ฟูแล่ม (วันเสาร์นี้)"

นอกจากนั้น เป็ป ยังเชื่อทั้ง คาลวิน ฟิลลิปส์ และ ไคล์ วอล์คเกอร์ สองนักเตะทีมชาติอังกฤษ น่าจะฟิตทันกลับมาลงสนามก่อนที่ฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ จะเปิดฉากในวันอาทิตย์ที่ 20 พ.ย.นี้ โดยเผยสั้นๆ ว่า "ผมคิดว่ามันมีความเป็นไปได้นะ"

ทั้งนี้ แมนฯ ซิตี้ ผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ในฐานะแชมป์กลุ่มเป็นที่แน่นอนแล้ว ขณะที่ ดอร์ทมุนด์ ได้อันดับสอง ส่วน เซบีย่า อันดับสาม และ เอฟซี โคเปนเฮเก้น รั้งอันดับสุดท้ายของกลุ่ม




วันอังคารที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2565

แบบไหนดีกว่า? เทียบสถิติ แมนยู เมื่อมีหรือไม่มี โรนัลโด้ ลงเล่น


เปรียบเทียบสถิติของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในยามเมื่อมีและไม่มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สตาร์ชาวโปรตุกีสลงสนาม หลังจากเจ้าตัวแทบจะหมดอนาคตในยุคของ เอริก เทย ฮาก ไปเรียบร้อย


เวลานี้อนาคตของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กำลังมีความไม่แน่นอนมากยิ่งขึ้น หลังเพิ่งถูกสั่งลงโทษจากสโมสรไม่ให้ลงเล่นในเกมกับ เชลซี พร้อมกับถูกส่งไปซ้อมกับทีมรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี และเชื่อกันว่าโดนปรับค่าเหนื่อยเป็นจำนวนหนึ่งด้วย หลังจากที่เขาปฏิเสธที่จะลงเป็นตัวสำรองในเกมกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์

จากประเด็นดังกล่าวนั้นแน่นอนว่ามันทำให้เจ้าตัวมีข่าวย้ายทีมหนาหูขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในช่วงตลาดรอบสองเดือนมกราคมนี้ ซึ่งเชื่อว่าเจ้าตัวไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมของ เทน ฮาก ไปเรียบร้อย และเตรียมเปิดรับข้อเสนอจากทีมอื่นที่จะยื่นเข้ามาด้วย

ล่าสุด เดอะ ซัน สื่อจากอังกฤษ ได้เปรียบเทียบสถิติในยามที่ แมนฯ ยูไนเต็ด มีและไม่มี โรนัลโด้ ลงเล่นให้เห็นว่าทีมควรเก็บเขาไว้ใช้งานต่อไปหรือไม่

สถิติระบุว่าในจำนวน 12 เกมที่ โรนัลโด้ ถูกส่งลงเล่นในซีซั่นนี้ทีมคว้าชัยไปได้ถึง 8 นัด ซึ่งรวมไปถึงเกมแดงเดือดที่ "ปีศาจแดง" เอาชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 แม้ว่าเขาจะถูกส่งลงเล่นแค่ 4 นาทีสุดท้ายก็ตาม โดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์การชนะอยู่ที่ 66.70 %

ในขณะเดียวกันตลอด 3 เกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่มี โรนัลโด้ อยู่ในสนามนั้นพวกเขาคว้าชัยได้เพียงนัดเดียวเท่านั้น โดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์การชนะอยู่ที่ 33.30 %

ส่วนในเรื่องการทำประตูต่อเกมเมื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่มี โรนัลโด้ อยู่ในสนามกลับมีตัวเลขที่ดีกว่าด้วยค่าเฉลี่ยยิงได้ 2 ประตูต่อเกม ซึ่งมากกว่าเมื่อมีซีอาร์เซเว่นลงเล่นด้วยค่าเฉลี่ย 1.3 ประตูต่อเกมเท่านั้น ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าสตาร์ชาวโปรตุกีสไม่ได้เป็นเดอะแบกในการล่าตาข่ายอีกต่อไปแล้ว

เช่นเดียวกับในเรื่องโอกาสการส่องประตูต่อเกมเมื่อทีมไม่มี โรนัลโด้ พวกเขามีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 17.7 ครั้งต่อเกม ซึ่งมากกว่าเมื่อมี โรนัลโด้ ด้วยค่าเฉลี่ย 15.6 ครั้งต่อเกม